Thursday, November 27, 2008

บทเรียนภาษาอังกฤษจาก หนังสือพิมพ์ New York Times




อาจารย์สอนบทความจากหนังสือพิมพ์ New York Times
เกี่ยวกับหญิงชาวจีนที่ได้รับ Citizens หรือ สัญชาติอเมริกัน และเพิ่งมีโอกาสเลือกตั้งครั้งแรกในชีวิต

เธอมาอยู่อเมริกาหลายสิบปี ภาษาอังกฤษก็อ่านไม่ได้ ไม่ได้ในที่นี้คือ A-Z ไม่ได้
เพิ่งได้มีโอกาสเรียนภาษาอังกฤษเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาจนกระทั่งสอบเป็น Citizen
ก่อนหน้าขึ้นรถเมล์ก็ไม่เป็นรถไฟก็ไม่ได้

อาจารย์สอนเรื่อง Knowlede is Power ซึ่งสามารถเปลี่ยนชีวิตได้ เหมือนกับสุภาษิตไทยที่ท่านสุนทรภู่
กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์บอกว่า "มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสน" เหมือนกันเลยครับ
ความรู้ทำให้ชีวิตดีขึ้นนะ ถ้าคุณมีความรู้จะมีอาชีพ หาเงินได้ ถ้าหากเงินหายไปหรือประสบความล้มเหลว
แต่ความรู้ยังอยู่ก็จะทำให้เงินกลับมาได้อาจารย์สอนให้ห้องอย่างนี้นะครับ


ถ้าหากท่านได้อ่านบทความนี้จะเห็นถึงความยากลำบากให้การใช้ชีวิตของผู้อพยพในประเทศสหรัฐฯ
ซึ่งมีอยู่หลายล้านคนถ้าหากไม่มีความรู้ภาษาอังกฤษจะใช้ชีวิตอย่างมากมาก

ให้ทุกท่านดูวีดีโอพร้อมกับอ่านบทความจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์คไทม์จากลิงค์นี้นะครับ
ถ้าหากอยากดาวน์โหลดวีดีโอมาเก็บไว้ที่เครื่องอ่านวิธีการจาก blog ที่ผ่านไปได้ครับ
รบกวนแสดงความเห็นในบทความจากนิวยอร์คไทม์หลังจากเรียนเสร็จแล้วว่า
ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรกับหญิงชราคนนี้และอาจจะทำให้พวกเรามีกำลังใจในชีวิตต่อการศึกษาหาความรู้ครับ


http://docs.google.com/View?docid=df3q59nd_5fxkkd5fm
บทความจากหนังสือพิมพ์ New York Times

--------------------------------------------------------------

The New York Times
Printer Friendly Format Sponsored By

July 28, 2007
With Citizenship Comes a Passion for Politics, and Life
By ELLEN BARRY


When a group of new United States citizens posed for photographs yesterday in a Queens basement, Zhai Ruiyun, 68, was invisible except for a floss of white hair at the top of her head. But if you peered behind the shoulder of a tall man, and between the tiny flags on wooden dowels, you could see that she was glowing like a firefly.


Get her talking about voting and Ms. Zhai speaks breathlessly, thumping her breastbone for emphasis. Last fall, the night before she cast her first vote, she was too keyed up to sleep, she said; she stood in the voting booth for what seemed like an age. She was used to thinking of herself as an old immigrant woman, she said, of so little use to anybody that at one point she contemplated a fade-out suicide: she would catch a bus to nowhere, and starve to death.


That first vote — for Ellen Young, a Chinese-American who went on to win a seat in the State Assembly — made tears run down Ms. Zhai’s face. “I could not believe that at such an old age I could have this right,” she said yesterday in Cantonese, through a translator. “It’s beyond my words.”

Yesterday, Ms. Zhai celebrated her new status along with 40 other immigrants at Selfhelp Community Services in Flushing, which helps immigrants prepare for the citizenship test. The honorees — mostly Chinese and in their 70s and 80s — wore ankle socks and orthopedic sandals; the walls were cinder block, spruced up with balloons and streamers. Everything about it was ordinary, and also extraordinary. Ms. Zhai’s teachers murmured about her, the way she walked into the citizenship program and shot past their expectations.

Ms. Zhai talked about politics.


“Hillary has a brain,” said Ms. Zhai, who had six years of formal schooling in China and spent 30 in a factory, hunched over a buffing machine, shining metal parts. “When Clinton was president, the economy was good.”

“Hillary has a president behind her,” she added. “I have decided to vote for Hillary.”

On weekday mornings, 200 students crowd into this cramped basement space, where mah-jongg tiles clack in the corners. Among them are bereft members of an urban elite and villagers who labored for decades in laundries and workshops, too exhausted to learn. Others are like Ms. Zhai, brought to America to care for their children’s children, and cut loose, late in life, to figure out where they belong.

Passing the citizenship exam transforms her students, said Jing-Juan Yu, who teaches English and who watched the ceremony from the side of the room.

“It seems that their face is shining,” said Ms. Yu.

Three years ago, when Ms. Zhai first turned up at the center with her husband, she sat across from Jane Qiu, the center’s director and a social worker, and wept. A daughter in Arizona had hoped that the Zhais could provide child care, but instead, Ms. Zhai needed treatment for breast cancer. The family cleaned itself out trying to pay her medical bills, which Medicaid does not cover for green-card holders in Arizona, and her daughter finally asked them to leave.

Life with a second daughter, in New York, was tumultuous: Relations between mother and daughter became so strained that they communicated only by writing notes, Ms. Qiu said. After six years in the United States, Ms. Zhai could not read the alphabet, and she was afraid to venture onto the subway, sticking to the one bus she knew well, the Q58.


“There was no road for me,” said Ms. Zhai. “I wanted to kill myself.”

The center helped her enroll in Medicaid, and when she finished her treatment, she began English lessons. This did not begin well; she was undereducated, even for a Chinese woman of her generation, and most of the other students at least knew the alphabet. But the week after Ms. Yu taught her the alphabet, Ms. Zhai came back knowing it. She surpassed her husband, who began preparing dinner for her in the evenings.


“Her cognitive ability surprised me,” Ms. Qiu said, and over the next two years Ms. Zhai “learned English from scratch.” Last July, she astonished her teachers by passing the citizenship exam on the first try. This month, the center closed Ms. Zhai’s case.

Every now and then, Ms. Zhai crosses a threshold. A year and a half ago, a friend took her to Manhattan on the subway for a visit to the Metropolitan Museum of Art, then left her alone to find her way back. Ms. Zhai panicked: Where was the Q58 when she needed it? She clutched a map and studied it. She got on the wrong train and reversed herself. The afternoon wore on. She made the transfer to the No. 7 at Grand Central Terminal, and as the train crossed the river into Queens, she flushed with satisfaction. She rides the subway all the time now.

“What makes me the most happy,” she said, “is to do what I want to do.”

Monday, November 10, 2008

เทคนิคการดาวน์โหลดวีดีโอภาษาอังกฤษจาก youtube และ google video

ผมได้ทำการอัพโหลดวีดีโอภาษาอังกฤษขึ้นไปเพิ่มเติมแล้วใน
อีก 2 เรื่อง ในวันอังคารที่ 4 พ.ย. 2551 ในแต่ละไฟล์ค่อนข้างนานพอสมควรครับ
เพราะอาจารย์ได้ให้รายละเอียดเนื้อหามาพอสมควร
ถ้าหากดูออนไลน์อาจจะเบื่อให้ดาวน์โหลดมาเก็บไว้ที่เครื่องหรือเอาไว้ให้คนอื่นได้ดูด้วย
มีวิธีการดังต่อไปนี้ครับ

1. เข้าไปที่เว็บไซค์ www.keepvid.com
2. เอาลิงค์จาก youtube.com และ google video ไปใส่ในช่องของ keepvid.com
3. กดปุ่ม download จาก keepvid
4. หลังจากกดปุ่มดาวน์โหลดแล้วจะมี ลิงค์ให้ดาวน์โหลดจำนวน 2 ลิงค์ครับ
ได้แก่ download - video.fly และ video.mp4
5. กดดาวน์โหลดได้ทั้ง 2 ไฟล์ครับ แต่ความละเอียดจะแตกต่างกัน
6. เมื่อดาวน์โหลดมาแล้วสามารถเปิดไฟล์ดูได้โดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต
แต่ ไฟล์ video.fly จะต้องเปิดดูแลด้วยโปรแกรม Free FLV Player ครับ
และสำหรับ Video.mp4 เปิดดูด้วยโปรแกรม Itunes หรือ Quicktime

ตัวอย่าง
ลองเอาลิงค์ บทเรียน 4 พ.ย. 2551/3
http://video.google.com/videoplay?docid=7495774913714922805&hl=en

เพียงแค่นี้ก็โหลดไฟล์ต่าง ๆ บน youtube และ google video ครับ
ขอให้มีความสุขกับการเรียนภาษาอังกฤษจากนิวยอร์คนะครับผม

ฝากบอกต่อ ๆ กันด้วยนะครับเผื่อการศึกษาของประเทศไทย

English Class 4 พ.ย. 2551 / 3



เรายังอยู่ในบทเรียนวันอังคารที่ 4 พ.ย. 2551 ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งประธานาธิบดี

อาจารย์ได้แนะนำ เรื่องพรรคการเมืองของสหรัฐฯได้แก่ พรรครีพลับลิกันและ เดโมแคต
วิธีการเลือกตั้งของที่นี่ ในกรณีที่ชาวต่างชาติ ได้ยินอะไรที่พูดไม่ชัดเขาจะบอกว่า sorry ครับ
การเลือกตั้งที่นี่เขาทำกันอย่างไรผมก็ไม่ทราบเพราะเราเป็นชาวต่างด้าว
อาจารย์อธิบายให้ดูจากภาพ
แต่คูหากากบาทออกเสียงเป็นเครื่องอิเลคทรอนิคส์ครับ
รายละเอียดวีดีโอนี้ อาจารย์ได้พูดถึง
การเลือกตั้งประธานาธิบดี เมื่อปี 2004
ระหว่าง จอห์จ บุช กับ อัล กอร์ มีปัญหาอย่างมาก
เกี่ยวกับระบบการโหวต เพราะมีการโหวตจากประชาชน (Popular Vote)และ Electoral Vote
ปัญหาการเลือกตั้งในสหรัฐฯ ก็มีปัญหาเหมือนกับบ้านเราเหมือนกันครับ
ผมเองก็ยัง งง อยู่ว่า Electoral Vote ว่าคืออะไรเป็นคณะบุคคลหรืออะไร
การแข่งขันระหว่างสองพรรคการเมืองสูง อาจารย์สอนประวัติศาสตร์การเลือกตั้งที่ผ่านมา
ให้กับพวกเราได้เข้าใจในระบบการเลือกตั้ง
a robocall เป็นระบบโทรศัพท์ที่ โทรไปตามบ้าน แล้ว บอกให้ประชาชนเลือกฝ่ายนั้นๆ
ตรงนี้บ้านเรามีหรือเปล่าไม่ทราบ ทั้งสองพรรคที่นี่ต่างก็งัดกลยุทธ์ขึ้นมา
สาดโคลนกันในทีวีนี่ไม่ต้องพูดถึงครับ ดุเดือดแบบบ้านเราน้อง ๆ ไปเลย
เรียกว่าเมืองไทยให้หลบไปได้เลย ใครจะเป็นนักการเมืองที่อเมริกาต้องอดทน
ต้องเสียงทั้งหลาย

อาจารย์ได้ชี้ให้เห็นถึงการหาเสียงหรือแคมเปญเน้นกันที่เรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก
บ้านจะเน้นที่ซื่อสัตย์สุจริตแต่ไม่ได้บอกว่าจะทำให้ผู้คนกินดีอยู่ดีอย่างไรบ้าง
ที่นี่นโยบายเศรษฐกิจมีผลต่อการเลือกตั้งของประชาชนมาก

Sunday, November 9, 2008

บทความ Everybody’s Voting For the Weekend 4/11/51






From English Class


ในชั้นเรียนของผม ท่านอาจารย์ กรอสแมน ได้ให้ บทความ Everybody’s Voting For the Weekend เกียวกับการเปลี่ยนวันเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ โดยในแบบฝึกหัด
จะมีบทความ , ศัพท์ และ แบบฝึกหัดให้ทดสอบความเข้าใจการอ่าน
วิธีการสอนของท่านจะทำอย่างนี้ครับ
คืออธิบายศัพท์ที่น่าสนใจหรือยากต่อความเข้าใจ 1 รอบ จากนั้นจะอ่านบทความให้ฟัง 1 รอบ
ให้กลับไปอ่านเป็นการบ้านและมาต่อคำถามครับ



แบบฝึกหัดเรื่องการอ่าน ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้ครับ

1. ให้อ่านบทความดังต่อไปนี้เกี่ยวกับ วันเลือกตั้งของสหรัฐฯ ตามลิงค์ดังต่อไปนี้ครับ

บทความ Everybody’s Voting For the Weekend

2. อ่านศัพท์ดังต่อไปนี้เพื่อทำความเ้ข้าใจ
ศัพท์ everybody’s voting for the weekend

3. ให้ทำแบบฝึกหัดดังต่อไปนี้ครับ

Exercise Every’ body voting

เรียนภาษาอังกฤษวันเลือกตั้ง 4 พ.ย. 2551 / 2





อาจารย์ เดวิด กรอสแมน ถามความเห็นนักเรียนเกี่ยวกับ New Yorker
เวลาประมาณ 7 นาที ลองฟังสำเนียงและจับใจความว่าพูดเรื่องอะไรบ้างครับ
ฟังเสร็จแล้วมาต่อ 4 พ.ย.2551 /3

เรียนภาษาอังกฤษวันเลือกตั้ง 4 พ.ย. 2551 / 1



บรรยากาศก่อนเริ่มเรียน อ.เดวิด กรอสแมน อาจารย์เอาบทความในหนังสือพิมพ์มาติดบนกระดานเนื่องจากวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง
ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาครับ ในชุดนี้จะมีวีดีโอ 5 ชุดให้เรียนกัน

นับถือ
ชีพธรรม คำวิเศษณ์

Saturday, November 8, 2008

มาเรียนภาษาอังกฤษที่นิวยอร์คด้วยกันครับ(ผ่านเน็ต)



สวัสดีครับท่านอาจารย์และเพื่อน ๆ ที่เคารพทุกท่าน



เป็นอย่างไรกันบ้างครับ หวังว่าทุกคนคงสบายดี ผมไม่ได้อัพเดท เว็บไซค์นี้มาหลายเดือนแล้ว
เลยไม่ได้ติดต่อกับทุกท่าน เนื่องจากติดภารกิจส่วนตัว เพื่อมาเรียนต่อที่นิวยอร์ค สหรัฐอเมริกา
ตอนนี้ผมได้มีเรียนภาษาอังกฤษในระดับชั้นกลางที่

Queensborough Community College
http://www.qcc.cuny.edu
อยู่ในรัฐนิวยอร์ค ห่างจากแมนฮัตตันประมาณ 30 นาที
ผมได้มีโอกาสมาเข้าเรียนชั้นเรียนภาษาอังกฤษที่นี่ หลังจากที่ได้สอบสัมภาษณ์แล้ว
ได้เรียนในชั้นระดับกลางก็คือพอพูดได้เขียนได้นิดหน่อยไม่ถึงกลับเก่งมาก
โดยได้เริ่มเรียนตั้งแต่ วันที่ 7 ตุลาคม 2551 ที่ผ่านมา
เพื่อนร่วมชั้นของผมมีหลายชาติด้วยกัน ตั้งแต่ เปรู, อิตาลี, จีน, โคลัมเบีย, ไต้หวัน, กัวเตมาลา, เม็กซิโก , โดมินิกัน, อียิปต์ , อัฟกานิสถาน
โดยมีอาจารย์ เดวิด กรอสแมน ชาวอเมริกัน ซึ่งมีความตั้งใจในการสอนภาษาอังกฤษอย่างมากให้กับนักเรียนต่างชาติอย่างพวกเรา
อย่างดียิ่งมาก ๆ ผมรู้สึกประทับใจมาก
หลังจากที่ได้เรียนมาสักพัก ก็ทราบว่าภาษาอังกฤษนั้นต้องเรียนอย่างถูกต้อง และได้รับการแนะนำ
เพื่อนร่วมชั้นของผมหลายท่านบางคนมาอยู่สหรัฐอเมริกา 2 ปี , 8 ปี , 10 ปี และ 12 ปี บ้าง
บางคนมีลูกโตแล้วก็ยังมาเรียน ผมก็สงสัยว่าอยู่มาตั้งนานพูดกันได้แล้วมาเรียนทำไม
คือว่าเขาพูดผิดพูดถูก ไม่ตรงกับไวยากรณ์ แล้วภาษาไม่เพราะ
เพื่อนชาวอิตาเลี่ยนอยู่มา 12 ปี พูดได้เก่งที่สุดในห้องบอกว่ามาเรียนเพราะต้องการปรับปรุงภาษาและการเขียนของเขา
เขาพูดได้แต่เขียนไม่ได้ คุณป้าจากเปรูมาอยู่ 10 ปี ต้องการปรับปรุงพูดและเขียน
ทุกคนมาเรียนมีปัญหาหมดครับ บางคนพูดเก่งมาก แต่ผิดเพียบ อาจารย์เดวิดก็แก้ไขให้
ผมเองก็ได้บ้างไม่ได้บ้างคงจะเห็นในวีดีโอนี้ก็คงไม่ว่ากันนะครับ






From English Class


อยากให้เอาบทเรียนที่ผมได้เรียนนี้ไปสอนต่อให้กับนักเรียนของท่านหรือสามารถเรียนด้วยกันได้เลยครับ
เพราะบรรยากาศทุกอย่างถูกอัดเทปวีดีโอ และ บทเรียนทั้งหมด เหมือนกัน ทุกประการ
ไม่ต้องเสียเงินมานั่งเรียนแบบผม และขอบอกว่า ที่นี่สอนดีมาก ๆ อาจารย์ผู้สอนมีประสบการณ์สูงสุด ๆ






From English Class


วิธีการเรียน
1. เรียนผ่านวีดีโอที่ได้อัพโหลดไปบน youtube
2. บทเรียนจะมีเป็นบท ๆ ตามวันเวลาที่เขียนลงไป พร้อมกับศัพท์และแบบฝึกหัดที่อาจารย์ได้ให้ไว้
โดยจะเริ่มทะยอยอัพโหลดไปเรื่อย ๆ
3. การอ่านบทความให้ออกเสียงด้วย
4. การอ่านแบบฝึกหัดให้อ่านศัพท์และคำแปลก่อน
5. อ่านบทความแล้วให้ฝึกทำแบบฝึกหัดเพื่อให้ทราบว่าเราเข้าใจมากน้อยแค่ไหน
6. ภาษาอังกฤษก็เหมือนกับภาษาไทย ฟัง,พูด,อ่านและเขียนสำคัญ เหมือนกันหมด
7. เรียนไปพร้อม ๆ กับผม ซึ่งอยู่ที่นี่
8. มีอะไร email คุยกันได้ที่ triusa@thaiventure.com






From English Class


หากข้อมูลผิดพลาดของอภัยกับทุกท่านด้วย
ทั้งหมดนี้ ผมอยากให้ทุกท่านได้มาเรียนด้วยกัน
เพราะใช้เวลาถึง 17 ปีที่จะมีโอกาสได้มาเรียนต่างประเทศที่สหรัฐอเมริกา
อยากให้เด็กไทยซึ่งอาจจะมีความฝันหรืออยากเรียนต่อต่างประเทศ ได้เตรียมตัว
หรือถ้าหากยังไม่มีโอกาส ก็ได้ใช้บทเรียนผ่านอินเทอร์เน็ตเรียนด้วยตนเองได้
เหมือนกับมาเรียนที่นิวยอร์คครับ






From English Class




ขอแสดงความนับถือ
ชีพธรรม คำวิเศษณ์
Roslyn , NY